Brainfruit Partner’s story
นอกจากจะได้มีโอกาสร่วมงานกับพาร์ทเนอร์ที่เก่งๆและได้เรียนรู้ทักษะมากมาย แล้ว Brainfruit ยังมีความหลงใหลในเรื่องราวแรงบันดาลใจ ก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์ของพาร์ทเนอร์ของเรา วันนี้เราขอนำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราวดีๆส่งต่อให้คนรักชา Kettle Tea Blends แบรนด์ชาที่เริ่มต้นด้วยจินตนาการและถ่ายทอดช่วงเวลาดีๆผ่านการดื่มชาจากคนที่รักชาทั้งสองคน คุณโฟน และคุณพีชที่เชื่อเหมือนกันว่า Taste Notes ของชาจะพาทุกคนเดินทางไปยังช่วงเวลาต่างๆที่มีความสุขภายในตัวเองได้ โดยชาที่ดีจะไม่เพียงแค่มีรสชาติหอมอร่อยเท่านั้น หากแต่ยังช่วยในการบำบัด ดูแลสุขภาพและปลอบประโลมจิตใจให้ผ่อนคลายจากความเครียด เหนื่อยล้าในชีวิต ไปตามอ่านกันเลย
ก่อนอื่นเลยอยากทราบว่าแต่ละคนทำอะไรกันมาบ้างและอะไรเป็นแรงบันดาลใจทำให้สร้างแบรนด์ Kettle and Tea ?
โฟนทำ Event Organizer มาก่อนค่ะ ก็จะทำเป็นพวกงาน Conference และ Exhibition จุดเริ่มต้นคงเป็นช่วงโควิดปีแรก ที่ทำให้งาน Event ต้องหยุดทั้งหมด ก็เลยมาคุยกับตัวเองว่า มีอะไรอีกไหมที่อยากทำนอกจากงานอีเวนท์ ซึ่งทุกครั้งที่เราถามตัวเอง Teahouse ก็ยังเป็นคำตอบเดิมอยู่ดี เป็นคนชอบดื่มชามากๆ เราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ดื่มชาทั้งที่บ้าน หรือว่าตามคาเฟ่ต่างๆ แต่จะทำ Tea House ในสถานการณ์โควิดก็ยังไม่มีความมั่นใจมากเท่าไหร่ จึงตัดสินใจทำแบบออนไลน์ก่อนค่ะ พอตกผลึกตัวเองเสร็จก็โทรหาคุณพีชเลย เพราะคุณพีชเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรไทย พอคุยกันแล้วก็มีเป้าหมายเดียวกัน คืออยากทำชาที่ทุกคนดื่มได้ง่าย ดื่มเพื่อบำบัดกายและใจ เป็นช่วงเวลาพักผ่อนที่ทุกคนทำได้
ช่วยเล่าที่มาคร่าวๆของที่มาของชื่อแบรนด์ และชา Taste note แต่ละตัวให้ฟังสักนิดนึงได้ไหมคะ
ชื่อแบรนด์เราใช้เวลาคิดกันไม่นานมากนะคะ นอกจากคำว่า Tea แล้วเราอยากได้คำที่จำง่าย และมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับชา Kettle แปลว่า กาต้มน้ำ เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญในการชงชา ซึ่งตรงกับเป้าหมายของเราที่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างช่วงเวลาดีๆให้กับทุกคนผ่านการชงและดื่มชาค่ะ
ส่วนวิธีคิดชาแต่ละตัว ส่วนใหญ่จะเริ่มจากจินตนาการแล้วก็ประสบการณ์จากการเดินทางของเราค่ะ อย่างตัวแรก Your Classic Black Tea เราก็จะจินตนาการว่า อยากได้ชาดำที่ดื่มแล้วนุ่ม หอม มีกลิ่นรสที่ติดอยู่ในคอ ให้ความรู้สึกเหมือนดื่มชาดำตอนเช้า เปิดหน้าต่างมาเจอ บรรยากาศเย็นๆสดชื่น มองไปเห็นวิวภูเขาและทุ่งหญ้า มีแพะ มีแกะ วิ่งอยู่ จิบชาดำร้อนๆแล้วรู้สึกตื่นตัวพร้อมรับวันใหม่
พอตอนนั้นเราคิดชาดำได้แล้ว เราก็คิดว่า แล้วถ้าอีกโทนคืออะไร ก็นึกไปถึงความเบา หอม และสดชื่น ดื่มแล้วรู้สึกสวยหวาน เป็นชาที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์อย่างแท้จริง ก็เลยนึกถึงชาขาวที่ต้องเก็บยอดใบชาเท่านั้น คิดถึงกุหลาบซึ่งเป็นควีนของวงการดอกไม้ เพิ่มความสดชื่นด้วยกลิ่นหอมของพีชและลิ้นจี่ที่ใครๆก็หลงรัก วิธีคิดชาก็จะประมาณนี้ค่ะ ก็จะจินตนาการให้เห็นภาพและกลิ่นให้ชัดเจนตอนเราดื่มชา
การทำธุรกิจชามีความท้าทายอะไรบ้างในยุคนี้ โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเองที่เริ่มจาก 0
ท้าทายมากๆนะคะ ยิ่งเป็นธุรกิจชาด้วยแล้ว ซึ่งแตกต่างจากวงการกาแฟอยู่พอสมควร แต่ต้องบอกตรงๆว่า การตัดสินใจทำแบรนด์ Kettle and Tea ในเวลานี้ ไม่ได้ทำให้เราเครียดกันเลย อาจเป็นเพราะว่า เราสนุกมากๆกับการที่ได้คิดชากันในแต่ละวัน ใช้จินตนาการของเรานึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เราเดินทาง ทั้งอดีตและอนาคตเลยนะ เพราะตอนนี้ไปไหนไม่ได้ การตามหาวัตถุดิบที่จะเอามาใช้เบลนด์ชาใหม่ๆก็สนุก ทำให้เราได้เปิดอีกโลก ได้รู้จักเพื่อนใหม่เยอะแยะเลยค่ะ
หลังจากนี้อยากเห็นวงการชาเป็นอย่างไร วางเป้าหมายตัวเองไว้ในระดับประเทศ/ภูมิภาค/โลก อย่างไร และคิดว่ามองทิศทางธุรกิจไปในทิศทางใดบ้าง
ส่วนตัวเราคิดว่า วงการชาตอนนี้เริ่มคึกคักแล้วนะคะ คนทั่วไปเริ่มหันมาสนใจในการดื่มชามากขึ้น ทั้งในเรื่องของการดูและสุขภาพและการบำบัดตัวเองจากภายใน สำหรับแบรนด์เรานั้น เป้าหมายใหญ่ในตอนนี้ก็อยากจะมี Tea House เป็นของตัวเองค่ะ แล้วก็อยากสร้างการรับรู้เรื่องการดื่มชา ให้เป็นหนึ่งช่วงเวลาดีๆที่เราสามารถดูแลกาย ใจของตัวเองได้ในทุกๆวัน
มองโอกาสในช่วง covid หลัง covid อย่างไร และคิดว่าการทำธุรกิจจะต้องใช้ strategy ใดเพื่อผลักดันให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย
ถ้าเป็นช่วงหลัง Covid เรามองว่า อยากเจอคนเยอะขึ้นค่ะ ด้วยความที่ตอนนี้เราไม่ได้มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง โอกาสในการเข้าถึงลูกค้าก็เลยยังมีไม่มาก ก็หวังว่าสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้นนี้เราจะได้เจอผู้คนเยอะขึ้น ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มชากันเยอะขึ้นค่ะ
ติดตามการเดินทางของ Kettle.Tea.Blends ได้ที่: