การหา Keyword หรือคำที่อยากให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าหนึ่งเป็นปัญหาของใครหลายคนที่เป็นทั้งคนลงมือทำให้องค์กรเองหรือคนที่บรีฟงานต่อให้ Outsource หรือให้ลูกค้า นั้นต้องคิดหนัก เพราะพอบทที่จะฮึดอยากทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของบริษัทนั้นติดอันดับต้นๆ ใน Google ก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน แต่เมื่ออ่านบทความนี้ การหา Keyword เพื่อไปทำ SEO ต่อก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป รับรองได้ว่าเอาไปใช้ได้จริงแน่นอน
SEO คืออะไร ทำไมถึงมีคนสนใจทำด้านนี้
SEO หรือ Search engine optimization คือการทำให้เว็บไซต์ของเราอยู่ในอันดับต้นๆ ของการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ การทำ SEO จะแตกต่างจากการทำ Digital Marketing ด้านอื่น ตรงที่ไม่ต้องซื้อโฆษณา แต่เราต้องทำเนื้อหาให้ตรง มีคุณภาพ และมีประโยชน์กับผู้อ่าน ก็จะสามารถทำให้เว็บไซต์ของเราขึ้นอันดับได้ และเมื่อเว็บไซต์ขึ้นดันดับแรกๆของการค้นหา ก็จะทำให้คนคลิกเพื่ออ่านหรือซื้อสินค้าและบริการของเรามากกว่าเว็บไซต์ที่อยู่ด้านล่างหรือหน้าถัดไป
ก่อน ทำ SEO ถามทีมงาน เจ้านาย หรือลูกค้า เป็นจุดเริ่มต้น
บางทีเรานั่งงมหาคนเดียวอาจจะไม่เข้าใจ สู้ถามจากทีมงานที่ร่วมงานกัน ระดมความคิด หรือถามหัวหน้าเราเลยก็ได้เพราะเค้าย่อมมีประสบการณ์มากกว่าเรา ในขณะเดียวกัน ถ้าเราเป็นคนทำงานให้ลูกค้า ลูกค้าย่อมรู้ดีว่าสินค้าของเค้านั้นเด่นเรื่องอะไร หรืออยากให้เน้นประโยชน์หรือสินค้าตัวไหนเป็นพิเศษ การสอบถามและระดมความคิดในตอนแรก จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ศึกษาตัวสินค้าบริการ หรือผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงคู่แข่งด้วย
การศึกษาสินค้า ผ่านทางทีมที่ผลิตสินค้า หรือผ่านโบชัวร์ รายละเอียดต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ที่สำคัญกว่าคือคู่แข่งของเรา ทุกผลิตภัณฑ์ย่อมมีคู่แข่งไม่ทางตรงก็ทางอ้อม การไปส่องคู่แข่งว่าชอบสื่อสารคำไหน หรือค้นหาแล้วเจอคู่แข่งอยู่หน้าแรก ๆ คำไหนมากที่สุด รวมถึงคำที่คู่แข่งชอบใช้ในเว็บไซต์ย่อมเป็นผลดีของเราในการค้นคว้าช่วงแรกที่เราอาจไม่มีไอเดียเรื่องคำต่าง ๆ เหล่านี้เลย
Tips เพิ่มเติม : การค้นหาคู่แข่งหรือเช็ค Keyword ของเราเองเบื้องต้นในหน้า Google แนะนำให้เปิดแบบ incognito หรือไม่ระบุตัวตนบน Chrome หรือใครใช้ Safari ก็ให้เปิดแบบ Private เพราะ Google ชอบเก็บค่าในเครื่องหรือ User เราว่าชอบค้นหาเว็บไหนเป็นพิเศษ ก็จะแนะนำหรือ Suggest ขึ้นมาให้เรา ทำให้เราไม่เห็นอันดับที่แท้จริงในการค้นหาผ่าน Google Search
Relate Searches หรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้องด้านล่าง ก็ใช้ได้นะ
เมื่อเราทำการค้นหาคำใน Google ตัว Google Search มักจะแนะนำคำที่เกี่ยวข้องหรือ Relate Searches อยู่ด้านล่างเสมอ เพื่อให้ผู้ที่ค้นหามีคำอื่นๆ ที่สนใจและคลิกไปต่อ โดยสำหรับคนที่ต้องการทำ SEO คำเหล่านี้ก็จะเป็นไอเดียสำหรับคนที่อยากหาคำเพิ่มเติม หรือคิดไม่ออกว่าควรทำ SEO คำไหนบ้างได้ดียิ่งขึ้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้องด้านล่าง เหมาะสำหรับเป็นไอเดียเพิ่มเติมในการทำ SEO ได้
หาเทรนด์ของคำได้ง่ายๆ ที่ Google Trend
เป็นเครื่องมือยอดฮิตที่หลาย ๆ คนชอบใช้ ในแง่ของการหา Keyword ที่จะทำ SEO การใช้ Google Trend ก็เป็นอีกเครื่องมือนึงที่น่าสนใจ เพราะเราสามารถดูได้ว่า Keyword ที่เราทำการค้นหาหรือค้นคว้ามานั้น มีการค้นหาจริงไหม หรือว่าใน 12 เดือนที่ผ่านมา มีช่วงไหนที่ Keyword มีการค้นหาโดดเด่นเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเปรียบเทียบกับคำอื่นๆ ที่เรามีในใจได้ด้วย
ใส่คือที่เราอยากทำให้ติดอันดับใน SEO พร้อมเปรียบเทียบหลายๆคำเพื่อดูเทรนด์ในแต่ละเดือนที่ผ่านมาได้
การค้นหาที่เกี่ยวข้อง หรือ Related searches ด้านล่าง
เมื่อเลื่อนลงมาด้านล่างหน่อย ก็จะเจอ Related queries นั่นคือ Google Trend จะแนะนำคำที่มีคนค้นหาที่คล้ายกับ Keyword ของเรา ซึ่งเราจะเอาส่วนนี้ไปทำ SEO ต่อหรือเอาไปเป็นคำที่เราต้องการให้ติดอันดับ SEO ในอนาคตก็ได้เช่นกัน
Related queries เป็นคำที่คล้ายหรือสามารถเป็นคำที่เรานำไปใช้ต่อได้เช่นกัน
Keyword Planner เป็นตัวช่วยในการทำ SEO ที่ดี
เครื่องมือ Keyword Planner เป็นเครื่องมือที่เอาไว้ศึกษาเรื่องการซื้อ Keyword ใน Google Ads แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องมือฟรีสำหรับคนทำ SEO ได้ด้วย เราสามารถใช้เครื่องมือนี้โดยการ
- กดไป Tools & Setting
- ไปที่ส่วนของ Planning และเลือกที่ Keyword Planner
- เลือกที่ Get search volume and forecasts
- จากนั้นก็วาง Keyword ที่ต้องการและกด Get Started ได้เลย
หลังจากนั้น Keyword Planner ก็จะบอกตารางคำที่เราเลือกมา สำหรับ SEO ดูหลักๆตามนี้
Avg. monthly searches เป็นค่าเฉลี่ยของการค้นหาต่อเดือน
Competition คู่แข่งที่ซื้อคำนี้ใน Google Ads มีสามระดับคือ Low medium และ High
หาก Keyword ที่เราเลือกมีการค้นหาระดับร้อยถึงพัน ถือว่าเป็นคำที่เหมาะและน่าสนใจที่จะทำ SEO แต่หากตำว่าร้อยอาจต้องพิจารณาว่าเรามีเวลาและคุ้มไหมที่จะดันคำเหล่านี้ให้ติดอันดับ หากมีการค้นหาเพียงแค่หลักสิบในแต่ละเดือน
Tips เพิ่มเติม :
1. การที่ใน Keyword Planner บอกเราว่า Competition = Low แปลว่าคู่แข่งในด้านการซื้อ Ads น้อย แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีคู่แข่งในเรื่อง SEO น้อยเสมอไป อาจจะมีคนที่ซุ่มทำ SEO แต่ไม่ซื้อ Google ads ก็เป็นได้
2. หากเราไม่ได้มี Account Google Ads ก็สามารถสมัครเพื่อใช้ Tools ด้านใน โดยไม่ต้องซื้อโฆษณาจริงได้
Google Search Console เครื่องมือที่ชาว SEO เลิฟ
ใครที่มีเว็บไซต์และสมัคร Search Console อยู่แล้ว ขอแสดงความดีใจกับคุณด้วย เพราะสำหรับการทำ SEO แล้ว Google Search Console ถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากๆ เพราะ Google Search Console ทำอะไรหลายอย่างมากๆ และเป็นส่วนช่วยให้เราทำเว็บไซต์หรือทำ SEO ได้ถูกทางมากกว่าเดิม
แต่หากใครยังไม่ได้สมัครไม่ต้องเสียใจไป กดอ่านเพิ่มเติมและสมัครเพื่อเชื่อมกับเว็บไซต์ได้ที่ลิงก์นี้เลย
ในส่วนของ Keyword นั้น Google Search Console จะสามารถให้เราดูได้ว่าที่ผ่านมานั้น มีคนค้นหาเรามาจากคำไหนมากที่สุด และคำเหล่านั้นอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ในหน้า Google ได้ด้วย วิธีการไม่ยากเลยคือ
1. ไปที่ Search Console เลือก Property เป็นเว็บไซต์ที่เราต้องการทำ SEO
2. เลือก Performance จากนั้นให้ติ๊กถูกที่ Average position ด้านบนก่อน
3. เลื่อนลงมาด้านล่างตรง Tab Quries จะแสดงจำนวนคนคลิกเข้ามาจากคำเหล่านี้ การแสดงผลในหน้าค้นหา Google รวมถึงอันดับในปัจจุบันด้วยว่า เว็บไซต์เรานั้น ใน Keyword ที่มีคนค้นหามา เราอยู่อันดับที่เท่าไหร่
SEO ไม่ยาก แต่ต้องใช้พลังในการ Research และความอดทนในการทำหลายอย่าง แต่รับรองได้ว่าการทำ SEO จะเป็นการลงทุนในระยะยาว หากขยันทำวันนี้อย่างถูกวิธี วันข้างหน้าจะเห็นผลจากที่เราหว่านเมล็ดพืชเอาไว้อย่างแน่นอน อนาคตจะมี Tips ดีๆ เกี่ยวกับ SEO และการทำ Digital Marketing ด้านอื่นให้ทุกคนได้เรียนรู้ และเพิ่มเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้กับตัวของเรา เพราะงั้นติดตาม Fruit For the Brain กันเยอะ ๆ นะคะ
สนใจปรึกษาการทำการตลาดดิจิทัล หรืออยากให้เราช่วยทำการตลาดให้ คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อติดต่อทีมงาน
ติดต่อเรา